ถ้าเราเพิ่งเริ่มต้นทำ SEO การทำ SEO ให้เว็บไซต์ตัวเอง กิจการตัวเอง หรือบริษัทที่หน้าเว็บไม่เยอะ ไม่ซับซ้อน ใช้ตัวฟรี ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน
แต่ถ้าการทำ SEO แบบจริงจัง! ทำเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือรับงานทำ SEO ให้ลูกค้าด้วย การใช้ Ahrefs มันมีประโยชน์และคุ้มค่าในตัวของมันเอง
Ahrefs เป็นเครื่องมือใช้ทำ SEO แต่ว่าราคาเริ่มต้นมันค่อนข้างสูง ลองใช้ของฟรีกันก่อน เครื่องมือที่ดีและฟรีจาก Ahrefs นี้ ทำได้ตั้งแต่เช็ก Backlink ตรวจสุขภาพเว็บ ดูข้อมูล YouTube ประเมินความยากของคีย์เวิร์ด และอื่นๆ อีกเยอะเลย ทำ SEO ได้ด้วยเครื่องมือฟรีนี่แหละ ไม่ต้องเสียเงิน
Ahrefs Keyword Generator นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราหาไอเดียคีย์เวิร์ด โดยเราแค่ใส่คีย์เวิร์ดหรือคำที่เรานึกออกลงไป เจ้าเครื่องมือนี้จะเอาคีย์เวิร์ดนั้น ไปหาคำอื่นที่มีการเสิร์ชแล้วมี Phase Match
หรือมีคำของเราอยู่ เช่น ถ้าเราใส่คำว่า “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ก็จะได้เห็นคำว่า “รถยนตร์ไฟฟ้า, มอเตอร์ไซค์, เป็นต้น
แล้วใส่คำที่ต้องการลงไป เลือกประเทศไทย (ถ้าจะหาประเทศไหนก็เลือกประเทศนั้นนะคะ) แล้วกด Find keywords
ตัว Ahrefs SEO Toolbar จะเป็น Extension ที่เราสามารถติดไว้บน Chrome หรือ Firefox ได้ ช่วยให้เราหาข้อมูลของคำ และคู่แข่งได้แบบรวดเร็วในหน้า SERPs ของ Google โดยข้อมูลที่มีบอกคือ
- ข้อมูลเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด และ on-page seo ต่างๆ
- Heading Tag
- ลิงก์บนเว็บไซต์ที่พัง (Broken link)
- ข้อมูลเกี่ยวกับลิงก์โดยมีการ Highlight ให้เลยว่า ลิงก์ไหนเป็น - Internal และ External
ที่สนุกอีกอย่างคือถ้าเราติดอันนี้ไว้ แล้วเราพิมพ์อะไรลงไปใน Google ทางขวามือมันจะขึ้นกรอบคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องขึ้นมาในหน้าผลการค้นหาเลยค่ะ ให้เรามีไอเดียในการรีเสิร์ชต่ออีกเพียบเลย
ตัวนี้เป็นเครื่องมือที่ ใช้งานได้ฟรี บางคนบอกว่าใช้ตัวนี้กับ Google Search Console ก็พอแล้วล่ะ โดย Ahrefs จะส่ง Bot เข้ามา Crawl เว็บของเรา เพื่อดูข้อมูลต่างๆ แล้วทำรายงานออกมาแบบดูง่ายมากๆ ช่วยให้คนที่ไม่ต้องมีความรู้เรื่องเทคนิคมาก ก็สามารถปรับแก้เว็บได้เอง โดยบอกข้อมูลละเอียดเลย ว่า URL ไหนมีปัญหาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นรูปใหญ่ รูปพัง Redirect มีปัญหา ตั้งค่าไม่ถูก Title/Descriptions ซ้ำกันหรือยังขาดอยู่ ฯลฯ
ใครสนใจเข้าไปที่ https://ahrefs.com/webmaster-tools กดสมัคร
ใครสนใจเข้าไปที่ https://ahrefs.com/webmaster-tools กดสมัคร
แล้วก็ใส่เว็บของตัวเองลงไป โดยตัวนี้จะดูข้อมูลได้แค่เว็บของตัวเองเท่านั้น และต้องมีการยืนยันความเป็นเจ้าของโดยวิธีต่างๆ เช่น เอาโค้ดไปลงในหน้าเว็บ หรือใช้ Google Search Console
Broken Link Checker เข้ามาเพื่อช่วยให้เราเช็กได้ว่า บนเว็บของเรานั้นมีลิงก์ไหนที่พังบ้าง ซึ่งเป็นปกติของการทำเว็บเลย สมมติเราเคยลิงก์อ้างอิงไปที่หน้าเว็บงานวิจัยแห่งนึง แล้ววันนึงเว็บนั้นปิดไป เจ้าของเว็บเปลี่ยน URL หรือหน้านั้นหายไป
ถ้าแบบนี้ลิงก์ที่เราเคยลิงก์จากบนเว็บเราออกไปข้างนอกก็จะถือเป็นลิงก์ที่พัง คนเข้ามากดแล้วก็ไปหน้า 404 เราเลยควรเข้ามาจัดการหน้าเว็บพวกนี้บ้าง สัก 1-2 เดือนครั้ง
ลองใช้ได้ที่ https://ahrefs.com/broken-link-checker
ถ้าแบบนี้ลิงก์ที่เราเคยลิงก์จากบนเว็บเราออกไปข้างนอกก็จะถือเป็นลิงก์ที่พัง คนเข้ามากดแล้วก็ไปหน้า 404 เราเลยควรเข้ามาจัดการหน้าเว็บพวกนี้บ้าง สัก 1-2 เดือนครั้ง
ลองใช้ได้ที่ https://ahrefs.com/broken-link-checker
ตัวนี้จะคล้ายกับ Keyword Generator แต่ เราเอาไว้ดูว่า คนบน YouTube เค้าเสิร์ชอะไรกัน ซึ่งอาจจะต่างกับที่คนเสิร์ชใน Google ปกติ โดยเราพิมพ์คำตั้งต้นลงไป มันก็จะขึ้นคำที่ใกล้เคียงมา พร้อมด้วยปริมาณการค้นหาใน YouTube ต่อเดือน แถมเลือกแบบ Questions เพื่อดูว่าคนพิมพ์ในรูปแบบคำถามว่ายังไงบ้างได้ด้วย ให้เรามีไอเดียในการทำคอนเทนต์ต่อได้ https://ahrefs.com/youtube-keyword-tool
เจ้าตัว SERP Checker จะช่วยเช็กว่า สำหรับคีย์เวิร์ดที่เราอยากจะติดอันดับ ข้อมูลคู่แข่งของเราเป็นยังไงบ้าง โดยตัวฟรีจะโชว์ 3 อันดับแรก ไปที่ https://ahrefs.com/serp-checker
ใส่คำที่ต้องการ เลือกประเทศ แล้วก็กดเช็กได้
Keyword Difficulty Checker จะคล้ายกับ SERP Checker คือบอกว่าถ้าเราอยากติดหน้าแรก Google ในคีย์เวิร์ดนี้ จะยากมากแค่ไหน โดยจะแสดง KD หรือ Keyword Difficulty ที่ดูจาก Backlink เป็นหลัก จะประมาณให้ว่าถ้าเราอยากติดคำนี้ จะต้องมี Backlink ไปที่หน้านั้นๆ กี่ลิงก์ แล้วก็จะโชว์คู่แข่ง 3 อันดับแรก
เรายังสามารถดู DR ได้ว่าถ้าคู่แข่งเรา DR เยอะมากๆ ก็อาจจะแข่งยากหน่อย ถ้าสูสีก็วัดกันที่คอนเทนต์ แล้วก็จะพอได้ไอเดียว่าถ้าเราติด 3 อันดับแรกในคีย์เวิร์ดนี้ได้จะมีคนเข้าเว็บเท่าไหร่ จาก Traffic
เรายังสามารถดู DR ได้ว่าถ้าคู่แข่งเรา DR เยอะมากๆ ก็อาจจะแข่งยากหน่อย ถ้าสูสีก็วัดกันที่คอนเทนต์ แล้วก็จะพอได้ไอเดียว่าถ้าเราติด 3 อันดับแรกในคีย์เวิร์ดนี้ได้จะมีคนเข้าเว็บเท่าไหร่ จาก Traffic
ของคู่แข่งที่ติดอยู่แล้ว ttps://ahrefs.com/keyword-difficulty
ตัว Ahrefs Backlink Checker ช่วยให้เราสามารถเช็ค Backlink ของเว็บไซต์เราได้แบบฟรีๆ
ใช้งานง่ายๆ แค่เข้าไปที่ลิงก์ https://ahrefs.com/backlink-checker
จากนั้นใส่เว็บของเราลงไป แล้วก็กด Check backlinks
พอเช็กข้อมูลเสร็จแล้ว เราจะเห็นข้อมูล Backlink ของเว็บนี้
พอเช็กข้อมูลเสร็จแล้ว เราจะเห็นข้อมูล Backlink ของเว็บนี้