การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการดูแลสุขภาพโดยการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอาจไม่เพียงพอ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูมีอายุและเจ็บป่วยเป็นโรคได้ง่าย
สำหรับหนุ่มสาวอายุปาไปหลัก 4 ขึ้นไป ควรหมั่นดูแลร่างกายแต่เนิ่นๆ เพราะการเริ่มดูแลเมื่ออายุเข้าหลัก 5 หลัก 6 อาจจะช้าไป ซึ่งการชะลอวัยสามารถทำได้หลายปัจจัย โดยทางการแพทย์เรียกว่าเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่เริ่มจากการเลือก "อาหาร" เพราะการเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ต้องแน่ใจว่าเป็นผัก-ผลไม้ออร์แกนิก ที่ทำให้ระบบขับถ่ายผู้สูงอายุทำงานได้ดี เป็นแหล่งอาหารที่ปลอดสารพิษจริงๆ เพราะปัจจุบันมีผัก-ผลไม้ที่ปนเปื้อนสารเคมีทั้งจากปุ๋ยที่ใช้รด อาทิ ผักที่ปลูกโดยไม่ใช่ดิน เพื่อให้ผลผลิตดูสวย น่ารับประทาน ตรงนี้ผู้สูงอายุต้องระวังเป็นพิเศษ อาจจะเลือกซื้อจากฟาร์มปลูกผักที่มีคุณภาพจริงๆ หรือหากเป็นไปได้ ผักที่รับประทานไม่จำเป็นต้องเขียวสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจเป็นผักมีรูจากแมลงเจาะบ้าง แต่ถ้าจะให้ดีนั้น การปลูกผักกินเองโดยใช้ปุ๋ยจากธรรมชาติ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยดูแลสุขภาพได้ทางหนึ่ง
เรื่องการจัดการกับ "ความเครียด" ก็สำคัญ เพราะระหว่างที่ผู้สูงอายุเกิดภาวะเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่ง "ฮอร์โมนคอร์ติซอล" ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ หรือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารแห่งความเสื่อมที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ ที่มาจากความเครียดเพียงน้อยนิดนั่นเอง แต่การที่ผู้สูงอายุจะจัดการกับความเครียดได้ การสวดมนต์ การทำบุญตักบาตร การไปเที่ยวพักผ่อนกับลูกหลานในช่วงวันหยุด หรือรวมกลุ่มผู้สูงวัยไปเที่ยวด้วยกัน หรือทำงานเพื่อการกุศล การเป็นจิตอาสา หรือเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่นักเรียน ก็เป็นอีกวิธีคลายเครียดที่น่าสนใจ
การเลือกอยู่ใน "อากาศที่ดี" ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการมีสุขภาพที่ดี เพราะจะทำให้อารมณ์แจ่มใสจากการสูดอากาศที่สดชื่นจากต้นไม้ เพราะถ้าผู้สูงอายุอาศัยอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม
เช่น โรงงานผลิตยาสูบ ก็อาจทำให้สูดดมสารพิษ อาทิ สารนิโคติน หรือสารทาร์ ที่พบได้ในบุหรี่ ซึ่งสามารถทำให้เป็นโรคมะเร็งได้ ดังนั้นการเลือกอยู่บ้านจัดสรรย่านชานเมือง หรืออยู่ต่างจังหวัดไปเลย ก็ถือเป็นการเติมอากาศบริสุทธิ์ให้กับปอดคุณตาคุณยายได้ ที่ลืมไม่ได้ การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ก็จะดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้ผิวเหี่ยวช้าลง และลดการเกิดโรคมะเร็งในผู้สูงวัยได้
นอกจากนี้ การชะลอวัยโดยการเลือกรับประทานอาหารที่ดี รวมทั้งการออกกำลังกาย แต่หากผู้สูงอายุไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย ทั้งโรคอ้วน, ไขมันอุดตันหลอดเลือด, โรคปวดเมื่อยตามข้อต่อต่างๆ ดังนั้นหากผู้สูงอายุไม่มีปัญหาโรคข้อ แนะนำให้ "ออกกำลังกาย"ที่เรียกกันว่า "คาร์ดิโอ" สัก 30 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือการออกกำลังกายที่เน้นการเต้นของหัวใจ เช่น ว่ายน้ำ, วิ่งบนลู่วิ่งเบาๆ, ปั่นจักรยานช้าๆ ฯลฯ โดยต้องทำควบคู่กับการออกกำลังกาย "เวตเทรนนิ่ง" หรือการยกเวต, ยกดัมเบลล์ ที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป เพื่อเสริมสร้างข้อต่อและกล้ามเนื้อแขนขาให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน.
ป้องกันโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ ควรเลือกผัก-ผลไม้ออร์แกนิกที่ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ
"เคล็ดลับหน้าเด็ก-ร่างกายแข็งแรง" ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายเบาๆ อย่างการจ๊อกกิ้ง หรือยกเวต
ที่มา -พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล